เขาคือโรคจิต ตอนที่ 3
ตอนที่ 3
เป็นครั้งแรกที่นานะเจอคนเปลือยต่อหน้า เธอหลับตาและหันหน้าหนีโดยอัตโนมัติ
“ทำไมถึงไม่ใส่เสื้อผ้า” เธอเอ่ยถามทั้งที่ยังหลับตา
วาคินไม่ตอบคำถามและเดินไปใกล้นานะด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาจับมือของนานะและจูงเธอไปนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะอาหารที่เต็มได้ด้วยอาหาร นานะลืมตาขึ้นมามองและกะพริบตาปริบๆ อย่างไม่เข้าใจ
“กินสิ เธอควรกินอาหารที่มีประโยชน์” วาคินนั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเธอ โต๊ะจึงพอบังสายตาของเธอไม่ให้เห็นอะไรต่อมิอะไรบนร่างของเขาได้บ้าง “ฉันรู้นะว่าเธอไม่ค่อยกินอะไรที่มีประโยชน์เลย กินแต่มาม่าใส่ไข่แทบทุกวันเลย”
เขารู้ได้ยังไง?
“ฉันเป็นห่วงนะ” เขาพูดต่ออีกประโยคด้วยสีหน้าเป็นกังวล
นานะกะพริบตาปริบๆ ดูเหมือนว่าเขาจะทำอาหารให้เธอด้วยความหวังดี...แต่เดี๋ยวนะ ยังไงการที่เขามายืนตัวเปลือยมาทำอาหารในบ้านของเธอยังไงมันก็ไม่ปกติ เขาเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย นี่มันพฤติกรรมของโจรไม่ใช่เหรอ? ถึงเขาจะไม่ได้ขโมยก็เถอะ แต่นี่มันผิด
เธอควรโทรหาตำรวจ...ว่าแต่เบอร์โทรตำรวจคืออะไร?
นานะพยายามนึก แต่ก็นึกไม่ออกเพราะเธอไม่เคยนึกสนใจเลย สุดท้ายเธอก็เลยต้องล้มเลิกที่จะโทรหาตำรวจ
“แต่นายก็ไม่ควรแอบเข้ามาในบ้านของฉัน” นานะเอ่ยเสียงเบาเพราะในใจก็เข้าใจว่าเขาเป็นห่วงเธอ นานะคิดว่าคนที่เป็นห่วงเธอก็คือคนที่ควรดีกลับไป
“ก็เธอล็อกบ้าน” วาคินว่าพลางไหวไหล่ “กินได้แล้ว” เขาบอกเธอ
นานะจึงยอมกินข้าวที่เขาเตรียมมาให้แต่โดยดี และหลังจากเธอกินเสร็จแล้วเขาก็แต่งตัวและออกจากบ้านเธอไป
นานะเกาหัว ตกลงเขาบุกเข้ามาในบ้านของเธอเพื่อทำอาหารให้กินงั้นเหรอ? แม้จะรู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่เธอก็ไม่ให้ความสนใจและเตรียมตัวอาบน้ำนอนอย่างเช่นทุกวัน
นานะคิดว่าเรื่องประหลาดจะจบลงไปแล้วในวันนี้เพราะในวันต่อมาวาคินก็ไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกันเธออีก เขาก็แค่นั่งมองเธอจากที่นั่งด้านหลังขณะอยู่ในชั่วโมงเรียน แต่ในระหว่างกลับบ้านนานะไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนแอบตามมา
“ไง ให้ฉันเข้าไปในบ้านได้ไหม?” ขณะที่นานะกำลังไขกุญแจหน้าประตูวาคินก็มายืนทักทายอยู่หน้าประตูรั้วบ้านของเธอ นานะมองอีกฝ่ายอย่างสงสัยว่าเขามายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่
เธอขมวดคิ้วคิดสักพักก่อนจะนึกถึงคำถามของเขาขึ้นมาได้ ถึงเขาจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอแต่เธอก็ไม่สนิทกับเขามันจึงเป็นเรื่องแน่นอนที่เธอจะต้องปฏิเสธและในขณะเดียวกันนานะก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อวานเขาทำอะไรบ้างในบ้านของเธอ เธอนึกถึงคำเตือนของเพื่อนๆ ด้วยว่าเธอไม่ควรยุ่งกับเขา
เธอสรุปว่าเขาไม่น่าไว้ใจจึงถอยหลังเข้าบ้านขณะมองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
วาคินยืนใจเย็นมองนานะที่ยืนใช้ความคิดหลายนาทีพอคิดออกเธอก็ถอยหลังเข้าบ้านจนกระทั่งปิดประตู วาคินแอบหลุดหัวเพราะเอ็นดูกับท่าทางของนานะ
วาคินยืนรอตรงหน้าบ้านไม่กี่นาทีก่อนที่เขาจะปีนรั้วบ้านของนานะและมาเคาะประตูบ้านอย่างไม่เกรงใจ นานะถึงกับทำตัวไม่ถูก โชคร้ายที่พ่อแม่ของเธอไม่ค่อยอยู่บ้านหลังนี้นักเพราะมันไกลจากที่ทำงานเกินไป ส่วนมากเธอจะอยู่บ้านคนเดียว ปกตินานะคงไม่กังวลหรือคิดอะไรมากที่ต้องอยู่คนเดียวเพราะยังไงเธอก็อายุสิบแปดแล้ว แต่การถูกบุกรุกมาถึงหน้าบ้านแบบนี้มันทำให้เธอต้องคิดใหม่
“นายปีนรัวเข้ามาแบบนี้….มันไม่ถูกต้องนะ” นานะพูดเสียงเบาจนเหมือนพึมพำอยู่หน้าประตู วาคินที่อยู่อีกฟากของประตูหัวเราะเบาๆ เมื่อวานเขาทำมากกว่านั้นเสียอีก
“เจ้าบ้านไม่ยอมรับแขกแบบนี้จะให้ฉันทำยังไง ถ้าตะโกนแหกปากเรียกอยู่หน้ารั่วบ้านคอของฉันคงเจ็บ” นานะคล้ายได้ยินเสียงหัวเราะของเขา ทั้งที่ประโยคที่เขาพูดไม่มีภัยคุกคามแต่นานะกลับรู้สึกหนาวสันหลังขึ้นมา นานะคิดว่าเธอลืมปิดแอร์ก่อนออกจากบ้างรึเปล่า “เปิดประตูหน่อยสิ” เขาว่าอีกครั้ง
นานะนิ่งคิดอย่างสับสนว่าควรเปิดรึไม่? แม้ในใจจะคิดว่าควรเปิดเพราะอีกฝ่ายเป็นแขกที่อาจจะมีธุระบางอย่างกับเธอ แต่คำเตือนของเพื่อนก็ลอยเข้ามาในหัว
“มีธุระอะไรรึเปล่า?” นานะถามก่อน หากธุระของเขาสำคัญเธออาจจะยอมเปิดให้
แต่เขาไม่ตอบคำถามของเธอ มันดูเงียบผิดปกติ ผ่านไปสองนาทีหน้าประตูก็ไม่มีเสียงอะไรอีก นานะคิดว่าเขาอาจจะไปแล้วจึงคิดที่จะลองเปิดประตูออกไปดู
“ไม่ต้องเปิดแล้ว” ทันใดนั้นเสียงของเขาก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเธอ เมื่อหันไปเธอก็พบว่าคนที่น่าจะอยู่ข้างนอกได้เข้ายืนอยู่ในนี้แล้ว
นานะนิ่งไปเพื่อให้สมองประมวลผล เขาเข้ามาในบ้านของเธอแล้ว? เขาไม่มีทางเข้ามาทางประตูแน่เพราะเธอยืนเฝ้าอยู่ แล้วเขาเข้ามาในบ้านเธอได้อย่างไรกัน?
“ได้ยังไง?” นานะถามอย่างสงสัย
“เธอไม่ชอบปิดหน้าต่างห้องครัว ฉันเลยเข้ามาทางนั้น” เขาตอบเสียงสบายๆ นานะพยักหน้าเข้าใจเรื่องราวช้าๆ ก่อนจะคิดได้ว่ามันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“มันเข้าข่ายบุกรุกบ้านผู้อื่นนะ….ฉันฟ้องตำรวจได้เลยนะ” นานะกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง แม้ความมึนบนใบหน้าจะยังไม่หายไป
“แย่ล่ะสิ ฉันไม่อยากเข้าคุกเสียด้วย” วาคินยังคงมีท่าทีสบายใจ เขาก้าวเดินเข้ามาใกล้นานะมากขึ้นทีละก้าว ดวงตาของเขาที่จ้องมองมายังนานะมันดูเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังจะล่าเหยื่อ นานะขมวดคิ้วงุนงงกับสถานการณ์ที่เธอไม่เข้าใจ “ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรหรอกน่า ฉันเข้ามาในบ้านของเธอหลายครั้งก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนี่นา”
“หลายครั้ง...” นานะทำหน้าครุ่นคิดว่าเธอเคยเห็นเขาเข้ามาในบ้านตอนไหนบางนอกจากเมื่อวาน แต่เธอก็นึกไม่ออก
“อืม~” วาคินลากเสียงยาวในลำคอ เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้หูของเธอและสูดลมหายใจลึกก่อนจะพ่นหายใจออกมาช้าๆ “ใช้ได้” เขาพึมพำ
นานะสะดุ้งเพราะความรู้สึกจั๊กจี้ที่หูที่ไม่คุ้นเคย เธอหดคอหลบแต่ก็ไม่พ้นการลวนลามของวาคินอยู่ดี เขาก้มลงจุ๊บที่แก้มของเธอเร็วๆ ทั้งสองข้าง นานะยืนนิ่งอย่างมึนงงเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องหอมแก้มเธอด้วย เธอกุมหน้าของตัวเองอย่างสับสน มีหลายอย่างที่เธอไม่เข้าใจมากเกินไป
“แค่นี้ฉันก็น่าจะฝันดีแล้ว ไปล่ะ” เขาขยี้หัวของเธอเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูเดินออกไปจากบ้านด้วยตัวเอง นานะก็ทำได้แค่ยืนมึนอยู่ที่เดิม
ตกลงเขาต้องการอะไร? บุกเข้าบ้านคนอื่นและมาลักหอมแก้มแล้วจากไป?
นานะไม่รู้เลยว่าควรจะโทรแจ้งตำรวจดีหรือไม่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น